
Maldives in Thailand
Be The Difference
Managed by AI
In Thai & English
Vicharn Group
Private Island
Shelter Aquarium
Environmental Impact Assessment
Law for Control environment
E I A
Laws regarding environment coverings
1.) ระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

1.) การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment ย่อว่า EIA) หมายถึง การประเมินผลกระทบจากโครงการพัฒนาที่จะมีต่อสุขภาพหรือความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมทั้งทางบวกและทางลบ รวมทั้งความเสี่ยงที่จะมีผลต่อสภาพความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อธรรมชาติ ซึ่งบางครั้งอาจนำไปสู่ภัยพิบัติต่อสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรง
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอาจนิยามได้ว่าเป็น “กระบวนการเพื่อการบ่งชี้ ทำนาย ประเมิน และบรรเทาผลกระทบทางชีวกายภาพ สังคม และผลกระทบที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่มีต่อข้อเสนอการพัฒนาใด ๆ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจให้ลงมือดำเนินได้” วัตถุประสงค์ของการประเมินก็เพื่อให้เป็นการประกันได้ว่า ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจได้พิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบของโครงการพัฒนาที่จะมีต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนทำการอนุมัติให้ดำเนินโครงการที่มีผู้ขออนุญาตดำเนินการ
ข้อดีของ EIA คือ ช่วยหาทางป้องกันผลกระทบในทางลบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในโครงการนั้นให้เกิดน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งส่วนใหญ่ไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้อย่างมีประโยชน์และคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของนักบริหารหรือผู้ประกอบการว่าสมควรดำเนินโครงการนั้นต่อหรือไม่ การทำ EIA จะเป็นประโยชน์อย่างมาก หากได้รับการวางแผนป้องกันปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนศึกษาความเหมาะสมของโครงการและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลังดำเนินโครงการไปแล้ว โดยในรายงาน EIA จะมีการกำหนดมาตรการป้องกัน และติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประกอบเป็นหัวข้อหลักที่สำคัญของรายงานอีกด้วย
EIA ศึกษาและวิเคราะห์เรื่องอะไรบ้าง
การจัดทำ EIA ประกอบด้วย การศึกษาครอบคลุมระบบสิ่งแวดล้อม 4 ด้าน คือ
-
ทรัพยากรกายภาพ เป็นการศึกษาถึงผลกระทบ เช่น ดิน น้ำ อากาศ เสียง ว่าจะมี การเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
-
ทรัพยากรชีวภาพ การศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ที่มีต่อระบบนิเวศน์ เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ปะการัง เป็นต้น
-
คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ เป็นการศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั้งทางกายภาพ และชีวภาพของมนุษย์ เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดิน
-
คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต จะเป็นการศึกษาถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อมนุษย์ ชุมชน ระบบเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ วัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ ค่านิยม รวมถึงทัศนียภาพ คุณค่า ความสวยงาม
2.) การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม Environmental Impact Assessment หรือ EIA
คือการจัดทำรายงานการตรวจสอบ และคาดการณ์ผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบจากการก่อตั้งโครงการ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลที่จะกระทบกับสิ่งแวดล้อม และใช้ในประกอบการตัดสินใจก่อตั้งโครงการ ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องจัดทำรายงาน Monitor ส่งหน่วยงานอนุญาต และส่งสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ปีละ 2 ครั้ง
ซึ่งตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ได้กำหนดให้การดำเนิน โครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและ ประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน
ทุกวันนี้อาคาร และคอนโดต่างๆ ถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นแล้วการรักษามาตรฐานการรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกันถือว่าเป็น หน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันของโครงการ และกิจการต่างๆ เพื่อให้คงระบบนิเวศน์ และธรรมชาติให้ดี ไม่ส่งผลกระทบหรือความเสียหายไปยังธรรมชาติเพิ่มขึ้น
ที่มาของการทำ EIA
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กับกฎหมายที่มีชื่อว่า “The National Policy Act of 1969 หรือ NEPA เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบนิเวศน์ และธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ และแนวคิดนี้ก็ถูกกระจายไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย เช่น เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เป็นต้น
โครงการคอนโดฯ หมู่บ้านแบบไหนบ้างที่ต้องทำ EIA
หน้าที่ตามกฎหมายระบุว่า เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ที่ได้ถูกควบคุมการปล่อยน้ำเสียหรือของเสียลงสู่แหล่งสาธารณะหรือออกสู่สิ่งแวดล้อมนอกเขตที่ตั้ง (Slide)
สรุปง่ายๆ สำโครงการคอนโดฯ อาคารชุด และหมู่บ้านก็คือ
-
โครงการคอนโดมิเนียม ที่มีจำนวนห้องชุด (Unit) ตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป หรือมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 4,000 ตารางเมตรขึ้นไป
-
โครงการบ้านจัดสรรที่มีจำนวนที่ดินแปลงย่อยตั้งแต่ 500 แปลง หรือเนื้อที่เกินกว่า 100 ไร่
ขอบเขต EIA ตรวจสอบเรื่องอะไรบ้าง
การจัดทำ EIA ประกอบด้วยการศึกษาครอบคลุมระบบสิ่งแวดล้อม 4 ด้าน คือ
-
ทรัพยากรกายภาพ เป็นการศึกษาถึงผลกระทบ เช่น ดิน น้ำ อากาศ เสียง ว่าจะมี การเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างหากโครงการก่อตั้งเสร็จ
-
ทรัพยากรชีวภาพ การศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านที่มีผลต่อระบบนิเวศน์ เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ ปะการัง เป็นต้น
-
คุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ เป็นการศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั้งทางกายภาพ และชีวภาพของมนุษย์ เช่น การใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นต้น
-
คุณค่าต่อคุณภาพชีวิต เป็นการศึกษาถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อมนุษย์ ชุมชน ระบบเศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ วัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ ค่านิยม รวมถึงทัศนียภาพ คุณค่า ความสวยงาม
ระยะเวลาในการนำส่ง รายงานการติดตาม
ครั้งที่ 1 ภายในเดือน กรกฎาคม (รวบรวมผลการติดตามตรวจสอบของเดือนมกราคม-มิถุนายน)
ครั้งที่ 2 ภายในเดือน มกราคม (รวบรวมผลการติดตามตรวจสอบของเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม)
ขั้นตอนการจัดทำและการยื่น EIA
-
เจ้าของโครงการจำเป็นต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าโครงการที่เข้าข่ายที่จะต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่
-
กรณีที่จัดทำเอง ต้องตรวจสอบให้ครอบคลุมตามขอบเขตของ EIA โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
-
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโครงการต่างๆ เช่น
-
ใบอนุญาติก่อสร้าง
-
แบบรับรองการตรวจสอบอาคารชุดประจำปี หรือ อ.1(อาคารชุด)
-
เอกสารประกอบจดจัดตั้งนิติบุคคล จสป.10
-
รายการจดทะเบียนของหมู่บ้าน
-
การกำหนดพื้นที่สีเขียว
-
ส่งผลตรวจสอบค่าน้ำประจำเดือน แบบ ทส.1 ทส.2
-
พื้นที่ใช้สอยทั่วไป เช่น ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ สนามกีฬา พื้นที่โดยริบบริเวร
-
-
ข้อมูลส่วนเพิ่มเติม เช่น
-
ค่าน้ำประจำเดือน (น้ำดี, น้ำเสีย, ความลึกของสระว่ายน้ำ)
-
มาตรการการติดตั้งตามเล่มก่อสร้าง
-
-
สามารถดูตัวอย่างรายยงานได้ตามลิ้งค์นี้ https://eiathailand.onep.go.th/wp-content/uploads/2023/03/08-eia-guideline-building-land-allocation-community-service-2560.pdf
-
กรณีจัดจ้างที่ปรึกษาทำเล่ม ควรจ้างที่ปรึกษาที่ขึ้นทะเบียนนิติบุคคลผู้มีสิทธิทำรายงาน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวก และ มั่นใจได้ว่าจะผ่าน EIA หากโครงการปฏิบัติตามอย่างถูกต้องครบถ้วน
-
เมื่อจัดรายงานเสร็จแล้ว ให้ยื่นไปที่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยจะใช้เวลาการพิจารณารายงานฯ ตามขั้นตอนตามที่กำหนดไม่เกิน 75 วัน แต่หากคณะกรรมการฯ
และต้องจัดทำเล่มรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมปีละ 2 ครั้ง
หากทำ EIA ไม่ผ่านจะส่งผลกระทบอย่างไร
หากโครงการไม่ได้รับการอนุมัติให้ผ่าน EIA โดยปกติแล้ว จะต้องทำการส่งแจ้งยื่นเล่มไปใหม่ จนกว่าจะถูกพิจรณาให้ผ่าน ซึ่งหากกรณีที่โครงการไม่ผ่าน EIA จริงๆ จำเป็นต้องคืนเงินจอง และเงินดาวน์ให้ผู้ซื้อตามกฎหมาย และไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบโครงการที่ผ่าน EIA ได้ที่ลิ้งค์นี้ http://eia.onep.go.th/
กรณีไม่ยื่น EIA จะเกิดอะไรขึ้น
ในกรณที่เจ้าของนั้นไม่เลือกที่จะยื่น EIA ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงหน่วยงานที่อนุมัติโครงการมีสิทธิที่จะลงโทษตามระเบียบและสภาพการณ์ในตอนนั้น ตั้งแต่การระงับการก่อสร้างชั่วคราวไปจนถึงกรณีร้ายแรงที่สุดอย่างการเพิกถอนการก่อสร้างได้
อีกทั้งยังผิดในฐานอาญามีโทษดังนี้
-
ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงเกี่ยวข้องกับมาตรการในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
ก่อสร้าง หรือดำเนินโครงการก่อนที่รายงาน EIA จะได้รับความเห็นชอบ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละแสนบาทตลอดระยะเวลาที่ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องหรือหยุดกระทำนั้น ซึ่งหากการก่อสร้างโครงการกระทบกับสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ ชุมชม อย่างรุนแรง ต้องถูกระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติกึ่งหนึ่ง
-
ไม่ส่งรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA ที่ต้องส่งอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ต้องวาระโทษปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท
การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม Environmental Impact Assessment หรือ EIA
คือการจัดทำรายงานการตรวจสอบ และคาดการณ์ผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบจากการก่อตั้งโครงการ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลที่จะกระทบกับสิ่งแวดล้อม และใช้ในประกอบการตัดสินใจก่อตั้งโครงการ ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องจัดทำรายงาน Monitor ส่งหน่วยงานอนุญาต และส่งสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ปีละ 2 ครั้ง